“บ้านกร่างเมืองโบราญ นามกล่าวขานมีไก่เหลืองหางขาว
ชื่อลือเลื่อง ผู้เฒ่าบอกว่า เป็นไก่เจ้าเลี้ยง นักเลงไก่ชนบอกว่า กินเหล้าเชื่อ” นี่เป็นคำบอกกล่าวกันมาแต่โบราญ
จากรุ่นสู่รุ่นลงมาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นตำนานไก่ชนพระนเรศวรจังหวัดพิษณุโลก
เมื่อประวัติศาสตร์บอกว่า ไก่ชนพระนเรศวรนำไปจากบ้านกร่าง
คนบ้านกร่างจึงมีความภูมิใจ และใจลำพองบอกว่าไก่บ้านตัวเองเก่ง “บ้านกร่างหัวแท” เป็นชื่อเรียกกันมาแต่โบราญ มีหลักฐานบ่งบอกว่า
“บ้านหัวแท” เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมมาแต่สมัยสุโขทัย
ตั้งอยู่ทางใต้หมู่บ้านกร่างในปัจจุบัน เมื่อชุมชนเจริญขึ้นหมู่บ้านขยายตัวขึ้นมาทางเหนือ
ซึ่งเป็นป่าต้นกร่าง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านกร่างหัวแท”
เมื่อกาลเวลาผ่านไปเป็นร้อย ๆ ปี ผู้คนนิยมเรียกชื่อสั้น ๆ ชื่อบ้านกร่างหัวแทจึงหดเหลือเพียงชื่อ
“บ้านกร่าง”
บ้านกร่าง
อำเภอเมืองพิษณุโลก แดนไก่ชนพระนเรศวรฯ
เป็นหมู่บ้านเก่าแก่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษไทยโบราญ
ปัจจุบันพบซากหักพังของวัดวาอารามเป็นจำนวนมาก
เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง
และมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์มายาวนาน
ผู้คนในหมู่บ้านยังสืบทอดขนบธรรมเนียมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คือมีงานเทศกาลต่าง ๆ
ก็จะนัดชนไก่กัน ปัจจุบันมีบ่อนไก่ชน 1 แห่ง ประจำหมู่บ้าน
ทุกวันอาทิตย์ที่มีไก่ชนในสังเวียน
จะพบว่าลุงแก่ ๆ ท่านหนึ่ง ไปดูไก่ชนทุกนัด ชื่อ “ลุงชิต เพชรอ่อน”
อายุประมาณ 90 ปี (พ.ศ.2533) ร่างกายแข็งแรง ตาดี หูตึงพูดต้องเสียงดัง
ซักถามคนในหมู่บ้านบอกว่าเป็นนักเลงไก่ชนมาตั้งแต่เด็ก
สืบสายเลือดการชนไก่มาจากพ่อและปู่ ท่านเล่าว่าสมัยปู่เลี้ยงไก่ชน (ประมาณ 200
ปีมาแล้ว) บ้านกร่างเลี้ยงไก่มาก เป็นไก่เก่งชนชนะชื่อเสียงดังมาก
เป็นที่ต้องการของคนต่างถิ่นมาก ไก่ที่เลี้ยงเป็น “ไก่อูตัวใหญ่ สีเหลือง
หางขาว” และปู่ได้พูดเสมอว่า “ไก่เหลืองหางขาว ไก่เจ้าเลี้ยง”
คำพูดนี้ติดปากคนบ้านกร่างมาจนถึงทุกวันนี้
การประกวดไก่ชนนเรศวรครั้งแรกเมื่อวันที่
29 กรกฏาคม 2533 ได้ไก่ชนนเรศวรที่ชนะเลิศ
เป็นไก่ชนตัวแรกที่นำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาไก่ชนนเรศวรให้ได้มาตรฐานตามภูมิปัญญาแต่โบราญ
ข้าพเจ้าจึงคิดจัดตั้งกลุ่มผู้สนใจที่จะรวมตัวกันพัฒนาไก่ชนนเรศวรขึ้นที่บ้านกร่าง
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไก่เจ้าเลี้ยงในปี พ.ศ.2535 โดยจัดประชุมผู้สนใจที่วัดธรรมเกษตร
แต่มีผู้สนใจน้อย จึงไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ข้าพเจ้าได้รับความสนใจที่ตำบลหัวรอ นำโดยกำนันเฉลิม อู่ทองมาก
จึงประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนนเรศวรเป็นครั้งแรก
แต่ความพยายามจัดตั้งกลุ่มที่บ้านกร่างมาสำเร็จลงได้ ด้วยความต้องการของชาวบ้านกร่างเอง
เพื่อต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับคนบ้านกร่าง บ้านกร่างจึงกลับมาดังอีกครั้งหนึ่ง
นำโดยอาจารย์สำเร็จ แก้วดิษฐ์ ได้ทำพิธีเปิดกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนนเรศวรครั้งแรกเมื่อวันที่
๑๐ เมษายน พ.ศ.2542 อาจารย์สำเร็จได้นำกลุ่มบ้านกร่างประสบความสำเร็จสมชื่อ
มีสมาชิกกลุ่ม 54 ครอบครัว กลุ่มมีวัตถุประสงค์ที่จะผลิตไก่ชนนเรศวรให้ได้มาตรฐาน
และต้องชนเก่งด้วย อาจารย์สำเร็จ
มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างพันธุ์ไก่ชนนเรศวรที่มีเกล็ดใต้อุ้งเท้าตามตำราและเกล็ดใต้ฝ่านิ้วด้วย เพื่อจดลิขสิทธิ์พันธุ์ด้วยแต่เชื่อเสียงอันโด่งดังของกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนนเรศวรบ้านกร่างที่สร้างมา
5 ปีเต็ม ต้องหยุดลงเมื่อปี พ.ศ.2547 เกิดมีไข้หวัดนกระบาด
ไก่ชนนเรศวรของสมาชิกต้องตายด้วยโรคระบาดและถูกทำลายตัดตอนเป็นจำนวนมาก
แล้วยังขาดผู้ที่ดำเนินการสืบสานต่อไก่เก่งประจำเล้าของอาจารย์สำเร็จ แก้วดิษฐ์
คือ “พายุเกย์” เป็นไก่เหลืองหางขาวที่สวยงามและชนเก่งด้วย
มี “เกล็ดใต้อุ้งเท้า” ตามตำราไก่ชนนเรศวรและมีเกล็ดใต้ฝ่านิ้วด้วย
เกล็ดนิ้วกลางนับได้ 25 เกล็ด ปีกไซสามเส้นประกบด้านอกและใน ชนชนะ 4 ไฟล์
เดิมพันหลักแสนขึ้น ชนะในอันสองทุกครั้ง ลูกไก่ขายตัวละ 1,500 บาท
มีคิวยาวมากนับว่าขายลูกไก่ได้ราคาดีมาก ๆ
“อาจารย์ต้อ” ชื่อนี้ผู้เลี้ยงไก่ชนตำบลบ้านกร่างต้องรู้จัก
รวมทั้งกลุ่มผู้เลี้ยงไก่อนุรักษ์เข้าประกวดทั่วประเทศต้องจำชื่อ
อาจารย์วุฒิวรพงษ์ ศรีเมือง (อาจารย์ต้อ) แห่งวิทยาลัยเกษตรบ้านกร่างเดิม
ได้เป็นอย่างดี ท่านเป็นอาจารย์ที่เข้าถึงชุมชนท้องถิ่นและมีผลงานมากมาย
เมื่อครั้งข้าพเจ้าศึกษาสุนัขบางแก้ว
อาจารย์จะเป็นแหล่งเลี้ยงสุนัขบางแก้วเพื่อการวิจัย
และจำหน่ายเผยแพร่พันธุ์ให้ประชาชน
จึงนับว่าอาจารย์ต้อเป็นผู้หนึ่งที่อยู่เบื้องหลังที่สร้างสรรค์ให้สุนัขบางแก้วมีชื่อเสียงในปัจจุบัน
เมื่อบ้านกร่างได้ตั้งชมรมอนุรักษ์ไก่ชนนเรศวรขึ้นท่านก็มาสนใจเลี้ยงไก่ชนนเรศวรอย่างจริงเอาจัง
ท่านช่วยแนะนำการเลี้ยงดู การผสมพันธุ์ให้กับชมรมบ้านกร่างโดยตลอด
พร้อมนี้ ท่านได้ร่วมเป็นกรรมการตัดสินไก่ชนนเรศวรทุกครั้งกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก
และท่านยังเป็นฝ่ายวิชาการในการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ชนนเรศวร
ท่านมีความชำนาญในเรื่องการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้ไก่ชนนเรศวรมีรูปร่างสวยงามดังในปัจจุบัน
ท่านรับเป็นวิทยากรให้คำแนะนำบรรยาย เรื่องการผสมพันธุ์ให้ลงเหล่า ตามภูมิปัญญาแต่โบราญ
ซึ่งจะตรงกับหลักการผสมพันธุ์สายเลือดชิดในวงเหล่าของตัวเอง
ท่านอาจารย์วุฒิวรพงษ์ ศรีเมือง ได้ฝากผลงานในเรื่องสุนัขบางแก้ว
และไก่ชนนเรศวรให้แก่จังหวัดพิษณุโลก และของประเทศไทยเป็นอันมาก
เมื่อท่านจากพวกเราไปแล้ว พวกเรายังรำลึกถึงท่านอยู่เสมอ
ปัจจุบันมีลูกหลานของลุงชิต เพชรอ่อน
ต้องการจะสืบสานต่ออุดมการณ์ของบรรพบุรุษ คือ ลุงชิต เพชรอ่อน
ผู้จุดประกายในการเริ่มต้นค้นหาไก่ชนพระนเรศวรในคำพูดที่ว่า “ไก่เหลืองหางขาวไก่เจ้าเลี้ยง”
ชาวบ้านกร่างจึงรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนนเรศวรขึ้นมาใหม่อีก
โดยการนำของกำนันตำบลบ้านกร่าง นายอดุลย์
โมลา ซึ่งเป็นกำนันนักพัฒนา
และมีนิสัยทัศน์ไกล ร่วมมือกันประธานสภาองค์การบริหารตำบลบ้านกร่างคือ
นายกิติศักดิ์ นาคมี และมีลูกหลานลุงชิต คือ นายบุญลือ เพชรอ่อน
เป็นแกนนำรวมตัวสมาชิกในตำบลขึ้นมาตั้งชมรมใหม่
และยังได้ร่วมมือกับนายสุชาติ
ขาวสะอาด มาตั้งร้านจำหน่ายไก่ชนนเรศวรที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง เพื่อเพิ่มรายได้ให้สมาชิกผู้เลี้ยง
ทางชมรมยังเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด จัดขึ้น เป็นการสร้างชื่อให้ไก่ชนนเรศวรบ้านกร่าง
โด่งดังเหมือนในอดีต
เมื่อคราวการประกวดไก่ชนนเรศวรครั้งแรกของประเทศไทย
ในงานครองราชย์ครอบ 400 ปี ของพระนเรศวรมหาราช วันที่ 29 กรกฏาคม 2533
ไก่จากบ้านกร่างได้รับรางวัลชนะเลิศที่ 2 คือ ไก่ของนายปรีชา ศรีวิชัย
และได้รับรางวัลชมเชย 2 ตัว คือ ไก่ของนายแมน เพชรอ่อน
และไก่เหลืองหางขาวของนายประนอม
เนียมหอม
การกลับมารวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มไก่ชนนเรศวรครั้งนี้
เป็นการสืบสานต่อไก่ชนเหลืองหางขาวบ้านกร่างให้ดำรงคงอยู่จากไก่เหลืองหางขาว
ที่ได้มาตรฐาน 3 ตัว ในปี พ.ศ.2533 และให้ความทรงจำของคนไทยยังคงอยู่ว่า
“ไก่เหลืองหางขาวบ้านกร่าง,พระนเรศวรมหาราช นำไปชนชนะไก่ของพระมหาอุปราชาที่พม่า”
คุณปรีชา บัวทองจันทร์
ได้ร้อยกรองเกียรติคุณไก่เหลืองหางขาวไก่เจ้าเลี้ยงบ้านกร่างเมืองสองแควได้
ดังนี้
ไก่ชนของ “สองแคว”
รุ่นพ่อ-แม่ ล้วนกล่าวขาน
ผู้คนขนานนาม
ตามตำราว่า “ไก่ดี”
สุดยอดของ “ไก่เก่ง”
เหล่านักเลงมานานปี
เหนือ-ใต้-ออก-ตก มี
ยอดไก่ตีที่โลกลือ
“เหลืองหางขาวไก่เจ้าเลี้ยง”
สร้างชื่อเสียงให้ระบือ
นาม
“นเรศวร” จงเชื่อมือ
เพราะข้าคือ
ยอดไก่ชน
นอกจากการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนนเรศวรตำบลบ้านกร่าง
กำนันอดุลย์ โมลา เมื่อครั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านแม่ระหันก็ได้พัฒนาหมู่บ้านให้เจริญรุ่งเรือง
ทั้งเรื่องคมนาคม และความเป็นอยู่ของชุมชน รวมทั้งส่งเสริมอาชีพหลากหลายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกของหมู่บ้าน
จึงได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมแหลบทองคำ ปี พ.ศ.2550 บ้านแม่ระหัน
จากกระทรวงมหาดไทย และได้รับรางวัลกำนันยอดเยี่ยมแหลบทองคำของจังหวัดพิษณุโลก
เมื่อปี พ.ศ.2555 นี้
ได้ร่วมมือกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง (ว่าที่ร้อยตรีธรรมนูญ
ท้าวฮ้าย) และประธานสภา อ.บ.ต. มีโครงการ สร้างรูปปั้นไก่ชนนเรศวรขนาดสูง 5 เมตร
ไว้หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง
และบริเวณทางแยกเลี้ยงเมืองเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเกิดความรักชาติ รักแผ่นดิน
โดยยึดเอาพระราชกรณีกิจของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า
พระนเรศวรขณะอยู่ที่พม่าได้ชนไก่ชนะพระมหาอุปราชาของพม่า
เป็นการกู้ศักดิ์ศรีความเป็นไทยคืนมา ไม่ให้ใครมาลบหลู่และสบประมาทได้
คนไทยทุกคนต้องจำชื่อ “ไก่ชนนเรศวรบ้านกร่างอยู่ในขั้วหัวใจตลอดไป”
************************************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น