พ่อขุนบางกลางท่าวเจ้าเมืองบางยางนักประวัติศาสตร์ได้ลงความเห็นว่า เมืองบางยาง ก็คือ
อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกในปัจจุบันซึ่งมีเอกลักษณ์ที่คนไทยควรจะรับรู้
และรักษาไว้ให้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป คือ “ต้นจำปาขาว”
เป็นต้นจำปาต้นเดียวของประเทศไทย
และของโลกที่ออกดอกสีขาวซึ่งพ่อขุนบางกลางท่าวได้ปลูกเสี่ยงทายไว้ก่อนยกทัพออกไปปราบขอมที่สุโขทัย
ถ้าได้รับชัยชนะขอให้ต้นจำปาขาวเจริญงอกงาม
จนถึงปัจจุบันมีอายุมากกว่าเจ็ดร้อยปี
“ประเพณีปักธงชัย” ณ.ยอดเขาช้างล้วงจัดขึ้นทุกปี ในวันขึ้น 14-15 ค่ำ เดือน 12
ซึ่งพ่อขุนบางกลางท่าวนำธงผืนแรกขึ้นไปปักเป็นธงแห่งชัยชนะต่อขอม
และชาวนครไทยเชื่อว่าเป็นธงผืนแรกของประเทศไทย
ตำนานโบราณของชาวนครไทยเล่าสืบต่อกันมา
พ่อขุนบางกลางท่าวสืบเชื้อสายมาจากเจ้าในราชวงศ์เชียงแสน ได้พาชาวเมืองอบพยบเรื่อยลงมาแล้วตั้งเมืองขึ้นที่นครบางยางเป็นทำเลที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกเป็นที่ราบกว้างใหญ่มีแม่น้ำแควน้อยหล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์
มีเทือกเขาล้อมรอบ เป็นแนวป้องกันศัตรูที่จะโจมตี
ชาวไทยทุกคนต้องฝึกซ้อมการรบให้มีความชำนาญ ต้องเก่งทั้งการชกมวย
และฟันดาบ
ดังจะเห็นได้จากพระรูปอนุสรณ์ของท่านทุกหนแห่ง มือต้องถือดาบ
กีฬาที่ท่านทรงโปรด คือการชักว่าว ดังเพลงเขาทะมึน เป็นเพลงประจำอำเภอนครไทยท่อนหนึ่งคือ
“พระทรงโปรดเล่นว่าว
เวลาว่างเปล่าแก้เหงาพระทัย ชักว่าวขึ้นไว้ ผูกกับหลักชัยให้นิกรชม”
ปัจจุบันพบเสาหืนสีแดงขนาดใหญ่มีร่องคล้ายร่องเชือกผูกมัดว่าวอยู่บนเขาหลักว่าวชาวบ้านเรียกว่า
“หลักว่าวพระร่วง” กีฬาแข่งเรือในแม่น้ำแควน้อยก็เป็นที่นิยมของชาวเมืองบางยาง
เมื่อเสร็จจากการทำไร่ทำนาก็มาพายเรือแข่งกัน ปัจจุบันยังมีเรือโบราณที่อนุรักษ์ไว้ คือ
เรือนางเรไร วัดหน้าพระธาตุเรือนางขุนโขน
วัดหัวร้อง
การชนไก่ก็เป็นที่นิยมกันของคนไทยสมัยโบราณ เนื่องจากมีการเลี้ยงไก่ไว้เป็นอาหาร
แล้วคัดเลือกตัวที่ชนเก่งไว้เป็นไก่ชนและขยายพันธุ์ อันเป็นประเพณีของคนไทยทางเชียงแสน ล้านนา
และเชียงรุ้ง นิยมเลี้ยงไก่สีดำไว้กินเพื่อบำรุงกำลังร่างกายสอดคล้องกับหนังสือ “ไก่กับคนจากมุมมองชีวชาติพันธุ์วิทยา”
ซึ่งเจ้าชายอะกิเมโนะโนะมิยะ ฟูมิฮิโตะ ทรงพระนิพนธ์พร้อมด้วยคณะผู้เขียนได้ไปสำรวจศึกษาวิจัยความสัมพันธ์ของคนกับไก่ในเมืองสิบสองปันนา
มณฑลยูนานประเทศจีน พบว่า “ไก่ต่อ”
คือไก่สีดำพบในหมู่บ้านชาวไทยดำ และพบในหมู่บ้านชาวไทยเผ่าอื่นๆ “ไก่สีดำจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี”เพราะมีความเชื่อว่าการกินไก่แข้งเหลืองจะทำให้ผู้กินเจ็บป่วยได้ นอกจากนี้ชาวไทยยังนับถือยกย่องเจ้าของไก่ชนที่ชนเก่งด้วยและการชนไก่เป็นการพัฒนาสายพันธุ์ไก่อีกทางหนึ่ง
พ่อขุนบางกลางท่าวได้นำไก่สีดำมาเลี้ยงที่นครบางยางไว้เพื่อบริโภคเป็นอาหาร
และคัดไก่เก่งไว้ชน ท่านมีไก่ที่ชนเก่งไว้หลายตัว
เมื่อนำออกชนจะชนะทุกครั้งจนเป็นที่เกรงขามของเมืองใกล้เคียง ผู้คนทั่วไปจึงเรียกว่า “ไก่เก่งพ่อขุน”
ในปัจจุบันเรียกชื่อสั้นๆว่า “ไก่พ่อขุน” พันธุ์ไก่สีดำในปัจจุบันก็คือไก่ประดู่หางดำ เมื่อพ่อขุนบางกลางท่าวรบชนะขอม
และได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงสุโขทัยมีพระนามว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์
ไก่เก่งพ่อขุน(ประดู่หางดำ)จึงเป็นที่ต้องการของเจ้าเมืองต่างๆ
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จึงใช้ไก่ชนเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรี
ไก่พ่อขุนแห่งกรุงสุโขทัยจึงมีชื่อเสียงโด่งดังกระจายพันธุ์ไปทั่ว
ไก่พ่อขุนประดู่หางดำเป็นไก่ชนที่มีเชิงชนหลายกระบวนท่า
รูปร่างก็งดงาม
เป็นไก่ที่มีขนลำตัว,ขนปีก,สีดำ
ขนหางทั้งพุ่มหางต้องเป็นสีดำสนิท สร้อยคอต้องยาวประบ่าถึงแผ่นหลัง
สร้อยหลังต้องยาวระย้าประก้น สีของสร้อยคอ สร้อยหลัง
และสร้อยปีกต้องมีสีประดู่เข้มหรือสีน้ำตาลไหม้ดำ แข้งมีสีดำ ไก่ประดู่หางดำ ไก่พ่อขุนจึงเป็นไก่ที่ชาวอำเภอนครไทยต้องนำมาเลี้ยงเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ไว้
เป็นไก่ประวัติศาสตร์ของพ่อขุนบางกลางท่าว
เพื่อให้ไก่ประดู่หางดำอยู่คู่ประเทศไทยตลอดกาล
**********************************************************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น