สุนัขบางแก้ว

                สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขไทยที่ได้พัฒนาขึ้นมาจากสุนัขบางแก้วดั่งเดิมที่มีการเลี้ยงอย่างแพร่หลายในตำบลบางแก้ว  อำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลก  ชุมชนที่ชอบเลี้ยงสุนัขบางแก้ว  ในสมัยก่อนนั้นมักตั้งบ้านเรือนอยู่ตามริมแม่น้ำหรืออยู่บนแพเพราะมีอาชีพทำประมง  ในฤดูฝนจะมีน้ำท่วมหลากเริ่มต้นจากแม่น้ำยมที่อยู่ในเขตจังหวัดพิษณุโลกซึ่งปัจจุบัน คือบ้านชุมแสงสงคราม และแม่น้ำยมจะแยกเป็นลำน้ำวังแร่ ลำน้ำบางแก้ว  ซึ่งบริเวณลุ่มน้ำเหล่านี้เป็นแหล่งเกิดของสุนัขบางแก้ว  เชื่อกันว่าสุนัขบางแก้วเกิดขึ้นครั้งแรกที่วัดบางแก้วซึ่งในสมัยนั้นมีหลวงพ่อรูปหนึ่งชื่อหลวงปู่มาก เป็นพระที่มีเมตตาสูง ท่านสามารถเลี้ยงสัตว์ป่าดุร้ายให้เชื่องได้  สัตว์ป่าหลายชนิดจึงอาศัยอยู่ในวัดของท่าน  โดยเฉพาะในฤดูฝนน้ำท่วมหลากทุกบริเวณในตำบลบางแก้วสัตว์ป่าจึงมาอาศัยรวมกันเพื่อเอาชีวิตรอดที่วัดของท่าน  ดังนั้นบริเวณป่ารอบวัดบางแก้วจึงมีสุนัขป่า,สุนัขจิ้งจอกมาอาศัยอยู่  สุนัขทั้งสองชนิดนี้จึงมีโอกาสผสมพันธุ์กับสุนัขบ้าน  การผสมพันธุ์ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรเป็นไปอย่างธรรมชาติข้ามสายพันธุ์ไปมาประมาณร้อยปีจึงเกิดสุนัขพันธุ์บางแก้วขึ้น  เมื่อลูกสุนัขเกิดขึ้นมามีรูปร่างลักษณะสวยงามชาวบ้านก็ขอพระไปเลี้ยงจึงเกิดการกระจายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วประกอบกับหมู่บ้านเหล่านี้มีน้ำหลากน้ำท่วมจึงเลี้ยงสุนัขบางแก้วอยู่บนแพที่อยู่อาศัยโอกาสที่สุนัขจรจัดจะหลงเข้ามาผสมพันธุ์ก็ไม่มีสุนัขบางแก้วจึงถูกรักษาสายพันธุ์แท้ของมันเองโดยธรรมชาติ



                การพัฒนาสุนัขบางแก้วได้เริ่มขึ้นที่บ้านชุมแสงสงครามหมู่ที่ 2 ตำบลท่านางงาม(ตำบลบางแก้วเดิม)โดยจัดตั้งชมรมผู้เลี้ยงอนุรักษ์และพัฒนาสุนัขบางแก้วขึ้นในปี พ.ศ.2526 โดยมีผู้นำ คือ ผู้ใหญ่ประเทือง  คงเจริญ  การดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงแนะนำการทำทะเบียน การผสมพันธุ์ตลอดจนการดูแลรักษาสุนัขป่วย และการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนทุกชนิด โดยหมอยุทธศักดิ์  ศศิมณฑล ปศุสัตว์อำเภอบางระกำและข้าพเจ้า  ได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก คือนายสืบ  รอดประเสริฐ  ให้ใช้เงินองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเริ่มพัฒนาสุนัขบางแก้ว ชื่อของสุนัขบางแก้วก็เริ่มติดหูผู้คนที่ชอบเลี้ยงสุนัข“บางแก้วดุ” เป็นสโลแกนที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการทำตลาดเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่นำสุนัขบางแก้วไปเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนเฝ้าบ้าน,เฝ้าสวน  เกิดกระแสตอบรับสุนัขบางแก้วอย่างดีมาก มีผู้ต้องการเลี้ยงสุนัขบางแก้วจากทั่วประเทศมาหาซื้อสุนัขบางแก้ว 
                สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลกได้จัดประกวดสุนัขบางแก้วทุกปีในงานเทิดพระเกียรติพระนเรศวรมหาราชโดยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกเพื่อให้ผู้เลี้ยงได้รู้จักคัดพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ที่ดีไว้ขยายพันธุ์  หลังจากดำเนินงานของกลุ่มผู้เลี้ยงอนุรักษ์และพัฒนาสุนัขบางแก้วได้ประมาณ 10 วัน ก็เกิดมีคำถามจากผู้หาสุนัขบางแก้วไปเลี้ยงว่า “อยากได้สุนัขบางแก้วพันธุ์แท้ๆ”เพื่อไปเลี้ยง  เราต้องยอมรับว่าการพัฒนาเริ่มต้นในชนบทโดยชาวบ้านชุมแสงสงคราม หมู่ที่ 2 เป็นผู้เลี้ยงบ้านละตัวสองตัว  ลูกสุนัขบางแก้วที่ผลิตออกมาในแต่ละปีไม่พอต่อความต้องการของตลาด  พ่อพันธุ์สุนัข และแม่พันธุ์สุนัขแต่ละตัวนั้นสีของขน และขนาดของตัวสุนัขก็มีหลากหลายสี และขนาดลำตัวก็แตกต่างกัน เพราะว่ายังไม่ได้สร้างมาตรฐานของสุนัขบางแก้ว  ดังนั้นผู้ที่นำสุนัขบางแก้วไปเลี้ยงจึงเกิดเห็นความแตกต่างแล้วคิดว่าเป็นพันธุ์ไม่แท้  ดังนั้นเวลามาหาซื้อสุนัขบางแก้วไปเลี้ยงจึงถามว่า
“อยากได้สุนัขบางแก้วพันธุ์แท้ๆไปเลี้ยง”
                        สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก โดยนายสัตวแพทย์นิสิต  ตั้งตระการพงษ์  จึงได้ประกาศ “เรื่อง การกำหนดมาตรฐานพันธุ์สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว” เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2541 เพื่อให้ผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วได้พัฒนาสุนัขบางแก้วไปในทิศทางเดียวกัน และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ประจำพันธุ์ที่แน่นอน  เมื่อสร้างมาตราฐานพันธุ์ขึ้นมาระบบการเลี้ยงจำหน่ายก็เข้าสู่ระบบการทำฟาร์ม  ทำให้สุนัขบางแก้วมีรูปร่างสวยงามขึ้น เป็นที่นิยมเลี้ยงของคนไทย เพื่อต้องการเลี้ยงเป็นเพื่อนแต่กลัวความดุร้ายของบางแก้ว  เวลาหาซื้อลูกสุนัขบางแก้วจะถามหา “บางแก้วไม่ดุมีไหม” ข้าพเจ้าจึงออกสโลแกนให้บางแก้วใหม่เพื่อให้ผู้เลี้ยงได้รู้จักมาตรฐานพันธุ์สุนัขบางแก้วอย่างง่ายๆ คือ “สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขพันธุ์ไทย,ขนยาว,ปากแหลม,หูเล็ก,หางตั้งเป็นพวง” นี่เป็นรูปร่างของสุนัขบางแก้วที่ได้พัฒนาขึ้นมา มีความสวยงามได้มาตรฐานที่กำหนดไว้ และได้ตัดคำว่า”ดุ”ออกไป  ดังนั้นความดุหรือไม่ดุอยู่ที่การพัฒนาของแต่ละคอกหรือฟาร์ม  ผู้ซื้อต้องถามหาซื้อจากคอกเอาเองว่าต้องการจะซื้อสุนัขบางแก้วไปเฝ้าไร่เฝ้าสวนเฝ้าบ้านก็ต้องซื้อสายพันธุ์ที่”ดุ”  หากต้องการสุนัขบางแก้วไม่ดุก็ต้องหาซื้อสายพันธุ์บางแก้วที่ไม่ดุ  อนึ่งสายพันธุ์บางแก้วไม่ดุจะเป็นการนำสุนัขบางแก้วสู่ตลาดต่างประเทศได้  จะเห็นได้ว่าเราพัฒนาสุนัขบางแก้วตามผู้บริโภค เขาต้องการแบบไหนเราก็ผลิตของแบบนั้นออกมาขายเป็นการพัฒนาตามผู้ซื้อ เป็นการพัฒนาไปข้างหน้าซึ่งสักวันหนึ่งเราจะลืมข้างหลังสุนัขบางแก้วอาจจะมีรูปร่างหรือสีผิดเพี้ยนไปจากของเก่าดั้งเดิม  เพราะคำว่า “พัฒนา” แปลว่าทำให้ดีขึ้น  ถ้าเราดูสุนัขบางแก้วในปัจจุบันนี้สวยงามมากเป็นที่ต้องการของคนไทย และเริ่มนำไปเลี้ยงในต่างประเทศ แต่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือ การพัฒนาแล้วเปลี่ยนไปจะดีขึ้นหรือเลวลงก็ตอบไม่ได้หรือจะเรียกว่าลืมหลัง(ได้ใหม่แล้วลืมเก่า)
                        ใบหูของสุนัขบางแก้วถ้าเราสังเกตให้ดีๆจะพบว่าใบหูของสุนัขบางแก้วของเดิมจะเป็นใบหูเล็กแหลมเป็นรูปสามเหลี่ยม  ฐานใบหรือโคนหูห่างกัน ปลายหูเบนออกไปข้างๆเล็กน้อยแต่ปัจจุบันจะเห็นว่าใบหูเหมือนสายพันธุ์ต่างประเทศที่คนไทยนิยมเลี้ยง คือ พันธุ์อัลเซเชี่ยน ใบหูมีขนาดใหญ่ป้องไปข้างหน้า โคนหูชิดกัน ใบหูตั้ง 90 องศา  ลักษณะใบหูจึงผิดไปจากดั้งเดิมมากจนนักเลี้ยงบางแก้วรุ่นใหม่พอเห็นใบหูสุนัขบางแก้วรุ่นเก่าบอกว่าไม่ใช่สุนัขบางแก้ว  เรื่องใบหูสุนัขบางแก้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ นักพัฒนาสุนัขบางแก้วหรือสมาคมที่บอกว่าอนุรักษ์ควรนำไปพิจารณา เพราะคำว่า “อนุรักษ์”แปลว่า “รักษาให้คงเดิม”  ดังนั้นจึงฝากข้อคิดนี้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป จะแก้ไขไหม?  หรือจะปล่อยไปก่อนเพราะว่าความผิดเพี้ยนมีนิดหน่อยยังไม่เสียหายเป็นการพัฒนาไปในทางที่ดีเพราะว่าเราใช้ชื่อสองคำรวมกัน คือ “อนุรักษ์และพัฒนา” แต่อย่างไรก็ตามนักผสมพันธุ์สุนัขบางแก้วที่เรียกตัวเองว่า “บรีดเดอร์” ควรหาความรู้ในเรื่องนี้หรือไปปรึกษานักพันธุศาสตร์(GENETIC)
เพื่อหาแนวทางแก้ไข เพราะว่าเราเริ่มเห็นสุนัขบางแก้วเริ่มดามหูแล้วเพราะกลัวหูไม่ตั้ง อาจจะเป็นลางบอกแล้วว่าใบหูจะใหญ่เกินไป
                        “จะอนุรักษ์สุนัขบางแก้วดั้งเดิมได้อย่างไร?” ที่ให้หัวข้อไว้นี้ มีจุดประสงค์จะบอกว่าโดยธรรมชาติแล้วสัตว์ทุกชนิดจะดำรงสายพันธุ์ของตัวเองไว้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างที่เราทราบกันคือสัตว์ป่า จะดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเองไว้เพราะอยู่ในป่า เรามาพิจารณาสุนัขบางแก้วดูบ้าง ดั้งเดิมก็คือ สัตว์ป่า สายเลือดสัตว์ป่า คือ สุนัขจิ้งจอกเมื่อแรกเกิดก็ดำรงชีพแบบอิสระจะเป็นหมาวัด กินอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง ต้องเข้าป่าล่าสัตว์กินบ้างเพราะว่าวัดอยู่ในป่า นิสัยป่าจึงติดอยู่ในสุนัขบางแก้วมาก แต่ในปัจจุบันสุนัขบางแก้วเป็นสัตว์เมืองถูกขังกรงบางตัวโชคดีหน่อยก็มีบริเวณบ้านให้วิ่งเล่น ตัวที่โชคดีจริงๆ  ก็คือ พวกเฝ้าสวนได้ใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม อาหารการกินก็เปลี่ยนไปหมด คือ กินอาหารเม็ด กินอาหารเหมือนมนุษย์อากาศ กินเอาคุณภาพ กลิ่นรสไม่คำนึง ลักษณะการเลี้ยงดูสุนัขบางแก้วก็เปลี่ยนแปลง  30 ปีแล้ว ดังนั้น รูปร่างและอุปนิสัยย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา จึงยากต่อการที่จะอนุรักษ์เอาไว้ ดังนั้น ผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วต้องยึดเอามาตรฐานพันธุ์เป็นหลัก จึงจะอนุรักษ์สุนัขบางแก้วได้ได้อย่างยั่งยืน
                        ความโชคดีของสุนัขบางแก้ว ก็คือได้รับพระราชทานถ้วยพระเทพรัตนราชสุดาในการประกวดสุนัขบางแก้วงานสงกรานต์ของเทศบาลนครพิษณุโลกประจำทุกปี  เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 จึงนับว่าเป็นถ้วยที่ยิ่งใหญ่และดั่งเดิมที่น่าภูมิใจของผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วจังหวัดพิษณุโลก  ในปัจจุบันนี้สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์เจ้าภัทรกิติยาภา  พระองค์ท่านมีความพระเมตตาต่อสุนัขบางแก้วทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมฟาร์มสุนัขบางแก้วเกือบทุกฟาร์มในจังหวัดพิษณุโลกและทรงพระราชทานถ้วยในการประกวดสุนัขบางแก้วในงานเทิดพระเกียรติพระนเรศวรมหาราชและงานกาชาดจังหวัดพิษณุโลก  ดังนั้นจึงจัดได้ว่าสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขของประเทศไทยที่พวกเราคนไทยควรหามาเลี้ยงไว้เป็นการสืบสานต่อการอนุรักษ์ให้สุนัขบางแก้วอยู่ยั่งยืนคู่ประเทศไทยตลอดกาล
                        ผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วในจังหวัดพิษณุโลกได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า
การพัฒนาสุนัขบางแก้วได้ดำเนินการสิบกว่าปีแล้วควรก่อตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์สุนัขบางแก้วให้อยู่ในมาตรฐานพันธุ์และเผยแพร่ให้มีการเลี้ยงสุนัขบางแก้วไปทั่วประเทศ  มีการรับรองสายพันธุ์สุนัขบางแก้วทุกตัวที่ซึ่งผ่านสมาชิกของสมาคมตามหลักสากลของโลก  ปัจจุบันนายสุวัฒนชัย  พิมพ์โพธิ์ เป็นนายก “สมาคมส่งเสริมอนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว”ตั้งอยู่ที่ 2/75 ถนนเทพารักษ์ ตำบลในเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก  65000  เนื่องจากสมาชิกของสมาคมมีมากและความต้องการของผู้ซื้อมีจำนวนมากจากทั่วประเทศ จึงทำให้การบริการของสมาคมเกิดความล่าช้า  สมาชิกของผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วบางส่วนจึงได้ตั้งสมาคมใหม่เพื่อตอบสนองต่อสมาชิกผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วทั่วประเทศ คือ “สมาคมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแห่งประเทศไทย”
                นายกสมาคมท่านปัจจุบัน คือนายสามารถ  สิงโตทอง  บ้านเลขที่ 44/3  หมู่ที่ 7  ถนนสีหราชเดโชชัย ตำบลวัดจันทร์  อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก  65000 โทร 081-9800978
                จะเห็นได้ว่ามีผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้วอย่างแพร่หลายทั่วทั้งประเทศไทย และได้นำไปเลี้ยงไปเลี้ยงยังต่างประเทศทั้งในอเมริกา และยุโรป  เพื่อต้องการให้สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขไทยสายพันธุ์หนึ่งที่ผู้เลี้ยงสุนัขทั่วโลกได้รู้จักเหมือนสุนัขไทยพันธุ์หลังอานที่ได้รับการจดทะเบียนจากสมาคมสุนัขโลกแล้ว  สมาคมส่งเสริมอนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว และสมาคมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมมือกันกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย)ได้ทำมาตราสายพันธุ์สุนัขไทยบางแก้ว(BREED  STANDARD  FOR THAI  BANGKAEW) นำไปจดทะเบียนต่อสมาคมสุนัขโลก  ซึ่งขณะนี้ได้รับการยอมรับแล้วและยังรอการประกาศรับอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง  ดังนั้นคนไทยควรจะภาคภูมิใจว่ามีสุนัขบางแก้วไปจดทะเบียนต่อสมาคมสุนัขโลกแล้วเป็นพันธุ์ที่สองต่อจากสุนัขไทยหลังอาน  ซึ่งเป็นการประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ และหาสุนัขบางแก้วไปเลี้ยง  ดังนั้นจังหวัดพิษณุโลกประเทศไทยจึงเป็นเพียงแหล่งกำเนิดสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเท่านั้นหมายความว่าคนทั้งโลกเป็นเจ้าของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว  ชาวพิษณุโลก และคนไทยทั้งประเทศจึงควรหาสุนัขบางแก้วไปเลี้ยงเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ของสุนัขที่ซื่อสัตย์  รักเจ้าของ และสวยงาม  เป็นสุนัขที่น่ารักเหมาะที่คนทั้งโลกต้องการนำไปเลี้ยง และที่รู้จักของคนทั้งโลกว่า “จังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว”
SHARE

นสพ.นิสิต ตั้งตระการพงษ์

ผู้จุดประกายหมาบางแก้วและไก่เหลืองหางขาวจนโด่งดังทั่วประเทศ ซึ่งสุนัขพันธุ์บางแก้วและไก่ชนพันธุ์พระนเรศวรเหลืองหางขาว เป็นสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดพิษณุโลก และเป็นสินค้าส่งออกที่มีความต้องการไปทั่วประเทศ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ มีบุคคลหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังและใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิต เก็บข้อมูล บันทึก ผลักดันมาตรฐานพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่จุดประกายให้สุนัขบางแก้วและไก่เหลืองหางขาวโด่งดังมาจนถึงวันนี้

  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น